จากการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮามาสที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันนี้ สร้างผลกระทบต่อตลาดการลงทุนไปทั่วโลก โดยเฉพาะราคาน้ำมันและราคาทองคำที่ปรับขึ้นสูงแบบก้าวกระโดด มีการวิเคราะห์ทั้งเรื่องการเมือง การลามไปเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ไปจนถึงการปั่นราคาน้ำมันและทองคำของกลุ่มประเทศที่ได้ผลประโยชน์
อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่เกินเยียวยา
หากมองเผิน ๆ ความขัดแย้งของอิสราเอลและปาเลสไตน์จะเป็นสงครามการแย่งชิงดินแดนที่หากว่าจะกล่าวย้อนกลับไปก็เป็นความขัดแย้งมาหลายร้อยปี ซึ่งมีการแย่งชิงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นดินแดนที่พระเจ้ามอบให้ตนเอง และดินแดนแห่งนี้ก็เป็นชนวนของสงครามครูเสดในอดีตด้วยเช่นเดียวกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ความกินแหนงแคลงใจและความขัดแย้งต่าง ๆ จะฝังรากลึกลงไปในผู้คน
ไม่ใช่แค่ความเชื่อและศาสนาเท่านั้นที่ทำให้ความขัดแย้งดังกล่าว กินเวลาหลายสิบปี แต่ความขัดแย้งที่อยู่บนดินแดนนี้ยังเป็นหนึ่งในตัวแทนที่หลงเหลือของสงครามเย็นที่กลายมาเป็นสงครามของผลประโยชน์ในปัจจุบัน
น้ำมัน-ทองคำ-การคว่ำบาตร
ในช่วงเวลาร้อยปีที่ผ่านมา น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก แต่น้ำมันไม่ได้ขุดเจอได้ทั่วโลก จึงมีเพียงกลุ่มประเทศเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีน้ำมันดิบ และสามารถกุมความได้เปรียบนี้ ราคาน้ำมันที่ลดลง การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการเลือกข้างสนับสนุนต่างเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งและสงครามไม่เคยจางหายไปจากดินแดนแห่งนี้
ในขณะที่ฟากประเทศฝั่งตะวันตก อย่างอเมริกา และ UN ต่างสนับสนุนอิสราเอล และต้องการจะคานอำนาจของกลุ่มประเทศอิสลามที่สนับสนุนปาเลสไตน์ การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และความรุนแรงที่เป็นคลื่นใต้น้ำในปัจจุบัน ก็ยิ่งทำให้สงครามบนดินแดนแห่งนี้ไม่มีทางจบลงง่าย ๆ โดยมีชีวิตของพลเรือนเป็นตัวประกัน
สุดท้ายแล้วปัญหาความขัดแย้งนี้จะจบลงเมื่อไร และอย่างไร คงยังไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ แต่ตราบใดที่ความซับซ้อนและผลประโยชน์ยังไม่จางหายไป ความขัดแย้งนี้ก็ยังคงมีอยู่ตราบนานเท่านาน